Privacy Policy
นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท อีโวลูชั่น เวลล์เนสส์ (ประเทศไทย) จำกัด
บริษัท อีโวลูชั่น เวลล์เนสส์ (ประเทศไทย) จำกัด (“บริษัท”) ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Privacy) ของท่านอันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานในความเป็นส่วนตัวของบุคคลโดยเจ้าของข้อมูลย่อมมีความประสงค์ที่จะให้ข้อมูลของตนได้รับการดูแลให้มีความมั่นคงปลอดภัยเพื่อให้ท่านเกิดความมั่นใจในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบริษัทจึงได้กำหนดนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (“นโยบาย”) ฉบับนี้ขึ้นเพื่อแจ้งรายละเอียดในการเก็บรวบรวมใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลของท่านดังปรากฏรายละเอียดในนโยบายฉบับนี้
-
นโยบายฉบับนี้ ใช้บังคับกับข้อมูลส่วนบุคคลของ
-
(1) ลูกค้าบุคคลธรรมดาของบริษัททั้งที่เป็นลูกค้าเป้าหมาย(ผู้ที่อาจเป็นลูกค้าในอนาคต)ลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าในอดีต
(2) พนักงาน บุคลากร เจ้าหน้าที่ ผู้แทนผู้ถือหุ้น บุคคลผู้มีอำนาจ กรรมการ ผู้ติดต่อ ตัวแทน และบุคคลธรรมดาอื่น ๆที่เกี่ยวข้องกับลูกค้านิติบุคคลของบริษัท ทั้งที่เป็นลูกค้าเป้าหมาย (ผู้ที่อาจเป็นลูกค้าในอนาคต) ลูกค้าปัจจุบัน และลูกค้าในอดีต และ
(3) บุคคลธรรมดาที่มิใช่ลูกค้าของบริษัทซึ่งมีการทำธุรกรรมหรือกิจกรรมหรือมีความสัมพันธ์กับบริษัทเช่น ผู้ให้บริการภายนอก คู่ค้า คู่สัญญากับบริษัท หรือผู้ถือหุ้นของบริษัท เป็นต้น(ต่อไปนี้หากไม่เรียก (1) ถึง (3) โดยเฉพาะเจาะจง จะเรียกบุคคลตาม (1) ถึง (3) ดังกล่าวรวมกันว่า“เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล”)
บริษัท ให้ความสำคัญและเน้นย้ำถึงการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโดยตระหนักว่าการประมวลผลข้อมูลในบริษัทจะต้องกระทำภายใต้หลักการ ดังนี้
> หลักความชอบด้วยกฎหมาย ความเป็นธรรม และความโปร่งใส (Lawfulness, fairness and transparency) บริษัทจะประมวลผลข้อมูลเฉพาะตามที่บริษัทมีฐานที่ชอบด้วยกฎหมายรองรับและ บริษัทจะกำหนดวิธีการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลอย่างชัดเจน
> หลักความจำกัดของขอบวัตถุประสงค์ (Purpose Limitation) บริษัทจะประมวลผลข้อมูลเฉพาะเพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ได้กำหนดและแจ้งไว้ในขณะที่บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้นเว้นแต่จะเป็นการประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวเนื่องกันหรือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่ชัดเจน
> หลักการใช้ข้อมูลที่น้อยที่สุด (Data Minimization) บริษัทจะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นเท่านั้นเพื่อที่จะบรรลุวัตถุประสงค์ของการประมวลผลข้อมูล
> หลักความถูกต้องของข้อมูล( Accuracy) บริษัทจะดำเนินการอย่างเหมาะสมเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจัดเก็บนั้นมีความถูกต้องสมบูรณ์และเป็นปัจจุบันโดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์ของการประมวลผล
> หลักความจำกัดของการเก็บรักษา (Storage Limitation) บริษัท จะทำการเก็บรักษาข้อมูลไว้เท่าที่จำเป็นต้องใช้เว้นแต่กรณีที่บริษัทจำเป็นต้องเก็บไว้เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานของการเก็บรักษาเอกสารหรือตามกฎระเบียบของรัฐ
> หลักความถูกต้องแท้จริงและการรักษาความลับ (Integrity and Confidentiality) บริษัทจะจัดให้มีมาตรการทางเทคนิคและทางบริหารจัดการที่เหมาะสมเพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจัดเก็บได้รับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยในระดับที่เหมาะสม
> หลักความรับผิดชอบ (Accountability) บริษัทจะดำเนินการอย่างเหมาะสมเพื่อให้สามารถแสดงได้ว่าบริษัทได้ปฏิบัติตามหลักการต่าง ๆข้างต้น
ฐานทางกฎหมายตามมาตรา 24 ในการเก็บรวบรวม ใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้
1.ฐานความยินยอมโดยต้องได้รับความยินยอมจากท่านก่อน
2.ฐานจดหมายเหตุ/สถิติ/วิจัยเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติซึ่งได้จัดให้มีมาตรการปกป้องที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของท่าน
3.ฐานระงับอันตรายต่อชีวิตเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
4.ฐานสัญญาเป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญานั้น
5.ฐานประโยชน์สาธารณะเป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
6.ฐานประโยชน์อันชอบธรรมเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลเว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
7.ฐานปฏิบัติตามกฎหมายเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
หากเป็นข้อมูลที่ละเอียดอ่อน (Sensitive Data) เป็นไปตามหลักเกณฑ์ตามมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ซึ่งต้องได้รับความยินยอมเว้นแต่มีข้อยกเว้นตามกฎหมาย
-
-
1.คำนิยาม
-
“บุคคล”หมายถึง บุคคลธรรมดา
"ข้อมูลส่วนบุคคล"หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม บริษัทอาจเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลที่ได้รับจากเจ้าของข้อมูลโดยตรง(เช่นแพลตฟอร์มลงทะเบียนของบริษัท)หรือได้รับหรือเข้าถึงได้จากแหล่งอื่น (เช่นกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย กรมการกงสุลกระทรวงการต่างประเทศ บริษัทข้อมูลเครดิต กรมบังคับคดี สถาบันการเงินที่ปรึกษาทางวิชาชีพ สื่อสังคม แพลตฟอร์มออนไลน์ของบุคคลภายนอกหรือแหล่งข้อมูลสาธารณะอื่น ๆ)หรือผ่านบริษัทในเครือผู้ให้บริการ พันธมิตรทางธุรกิจ หน่วยงานทางการ หรือบุคคลภายนอก
"ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน" (Sensitive Data)หมายถึงข้อมูลที่เป็นเรื่องส่วนบุคคลโดยแท้ของบุคคล แต่มีความละเอียดอ่อนและอาจสุ่มเสี่ยงในการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมเช่น เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
“เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล”(Data Subject)หมายถึงตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นแต่ไม่ใช่กรณีที่บุคคลมีความเป็นเจ้าของข้อมูล(Ownership)หรือเป็นผู้สร้างหรือเก็บรวบรวมข้อมูลนั้นเองโดยเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนี้จะหมายถึงบุคคลธรรมดาเท่านั้น และไม่รวมถึง“นิติบุคคล” (Juridical Person)ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายเช่น บริษัท สมาคม มูลนิธิ หรือองค์กรอื่นใด
ทั้งนี้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่ บุคคลดังต่อไปนี้
1.เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นผู้บรรลุนิติภาวะหมายถึง
1.1 บุคคลที่มีอายุตั้งแต่20ปีบริบูรณ์ขึ้นไป หรือ
1.2 ผู้ที่สมรสตั้งแต่อายุ17ปีบริบูรณ์ขึ้นไป หรือ
1.3 ผู้ที่สมรสก่อนอายุ17ปี โดยศาลอนุญาตให้ทำการสมรสหรือ
1.4 ผู้เยาว์ซึ่งผู้แทนโดยชอบธรรมให้ความยินยอมในการประกอบธุรกิจทางการค้าหรือธุรกิจอื่นหรือในการทำสัญญาเป็นลูกจ้างในสัญญาจ้างแรงงานในความเกี่ยวพันกับการประกอบธุรกิจหรือการจ้างแรงงานข้างต้นให้ผู้เยาว์มีฐานะเสมือนดังบุคคลซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้ว
ทั้งนี้ในการให้ความยินยอมใด ๆเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นผู้บรรลุนิติภาวะสามารถให้ความยินยอมได้ด้วยตนเอง
2.เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นผู้เยาว์หมายถึง บุคคลที่อายุต่ำกว่า20ปีบริบูรณ์และไม่ใช่ผู้บรรลุนิติภาวะตามข้อ1ทั้งนี้ในการให้ความยินยอมใด ๆจะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์ด้วย
3.เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นคนเสมือนไร้ความสามารถหมายถึง บุคคลที่ศาลสั่งให้เป็นคนเสมือนไร้ความสามารถเนื่องจากมีกายพิการหรือมีจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ หรือประพฤติสุรุ่ยสุร่ายเสเพลเป็นอาจิณหรือติดสุรายาเมา หรือมีเหตุอื่นใดทำนองเดียวกันนั้นจนไม่สามารถจะจัดทำการงานโดยตนเองได้หรือจัดกิจการไปในทางที่อาจจะเสื่อมเสียแก่ทรัพย์สินของตนเองหรือครอบครัวทั้งนี้ในการให้ความยินยอมใด ๆ จะต้องได้รับความยินยอมจากผู้พิทักษ์ที่มีอำนาจกระทำการแทนคนเสมือนไร้ความสามารถนั้นก่อน
4.เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นคนไร้ความสามารถหมายถึง บุคคลที่ศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ เนื่องจากเป็นบุคคลวิกลจริตทั้งนี้ ในการให้ความยินยอมใด ๆจะต้องได้รับความยินยอมจากผู้อนุบาลที่มีอำนาจกระทำการแทนคนไร้ความสามารถนั้นก่อน
ทั้งนี้หากการขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไม่มีผลผูกพันเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล”หมายความว่า บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
“ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล”หมายความว่าบุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
-
-
2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทอาจเก็บรวมรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผย
-
บริษัทได้จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลที่บริษัทจะแจ้งให้ทราบในลำดับถัดไปทั้งนี้ได้จำแนกประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจัดเก็บไว้ ดังนี้
2.1.1ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บจากลูกค้าประเภทของข้อมูล - ข้อมูลส่วนตัว
ตัวอย่างข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมใช้ และ/หรือ เปิดเผย - คำนำหน้าชื่อ ชื่อ ชื่อกลางนามสกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชน/เลขPassport วัน เดือนปี เกิด รสนิยมทางการตลาด เพศ รายชื่อติดต่อฉุกเฉิน รายละเอียดเกี่ยวกับสุขภาพ สถานการณ์การได้รับวัคซีน อาชีพ สถานะประกันAIA รายละเอียดการชำระเงิน รูปถ่าย ลายมือชื่อ
ประเภทของข้อมูล - ข้อมูลอ่อนไหว
ตัวอย่างข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผย
1.การเก็บข้อมูลจากแบบทดสอบความพร้อมทางร่างกายได้แก่ข้อมูลปัญหาเกี่ยวกับโรคหัวใจทั้งในอดีตและปัจจุบัน อาการการเจ็บหน้าอกหรือแน่นหน้าอก ประวัติการได้รับยารักษาเกี่ยวกับโรคหัวใจความดันโลหิต หรือยาขับปัสสาวะ ปัญหาเกี่ยวการการเจ็บป่วยของกระดูกและข้อต่อ ปัญหาเรื่องการทรงตัวและการหมดสติ โรคอื่นๆที่มีผลต่อการออกกำังกายเช่น โรคเก๊าท์2. การเก็บข้อมูลจากBoditrax - ค่าimpedance, Fat free mass, Muscle, Fat, Bone, BMR, อายุ, BMI, น้ำหนัก และส่วนสูง
3. ข้อมูลสุขภาพอื่นๆ
4.ข้อมูลศาสนา
ประเภทของข้อมูล - ข้อมูลเพื่อการติดต่อ
ตัวอย่างข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผย - ที่อยู่ปัจจุบัน หมายเลขโทรศัพท์หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ อีเมล
ประเภทของข้อมูล - ข้อมูลการศึกษาและการทำงาน
ตัวอย่างข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผย- อาชีพ และชื่อบริษัทประเภทของข้อมูล - ข้อมูลทางการเงิน
ตัวอย่างข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผย- หมายเลขบัญชี หมายเลขบัตรเครดิต ข้อมูลการชำระเงินหรือการชำระหนี้ ข้อมูลการใช้บริการและผลิตภัณฑ์ของบริษัท ประวัติการซื้อขายและยอดคงเหลือ ประวัติการชำระเงินและการทำธุรกรรม
ประเภทของข้อมูล - ข้อมูลภาพและเสียงในการติดต่อกับบริษัท
ตัวอย่างข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผย - บันทึกภาพจากกล้องวงจรปิด (CCTV) บันทึกการสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์หรือช่องทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นของบริษัท
ประเภทของข้อมูล - ข้อมูลการใช้งาน
ตัวอย่างข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผย- ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานบนเว็บไซต์แพลตฟอร์ม การใช้ผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท ข้อมูลคุกกี้ ข้อมูลทางเทคนิคอื่นๆ จากการใช้งานแพลตฟอร์มและระบบปฏิบัติการของบริษัท
2.1.2ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บจากผู้สมัครงาน
ประเภทของข้อมูล- ข้อมูลส่วนตัว
ตัวอย่างข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมใช้ และ/หรือ เปิดเผย- คำนำหน้าชื่อ ชื่อ ชื่อกลางนามสกุล งานอดิเรก เพศ รูปถ่าย
ประเภทของข้อมูล- ข้อมูลอ่อนไหว
ตัวอย่างข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมใช้ และ/หรือ เปิดเผย- ข้อมูลสุขภาพอื่นๆ ข้อมูลศาสนา
สถานการณ์การได้รับวัคซีน อาชีพ สถานะประกันAIA รายละเอียดการชำระเงิน รูปถ่าย ลายมือชื่อ
ประเภทของข้อมูล- ข้อมูลเพื่อการติดต่อ
ตัวอย่างข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมใช้ และ/หรือ เปิดเผย -ที่อยู่ปัจจุบัน หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ อีเมล LineID
ประเภทของข้อมูล- ข้อมูลการศึกษาและการทำงาน
ตัวอย่างข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมใช้ และ/หรือ เปิดเผย -สถาบันการศึกษาและข้อมูลการฝึกอบรม วุฒิการศึกษา อาชีพชื่อบริษัทประวัติการทำงานประเภทของข้อมูล- ข้อมูลภาพและเสียงในการติดต่อกับบริษัท
ตัวอย่างข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมใช้ และ/หรือ เปิดเผย -บันทึกภาพจากกล้องวงจรปิด(CCTV) บันทึกการสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์หรือช่องทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นของบริษัท
ประเภทของข้อมูล - ข้อมูลการใช้งาน
ตัวอย่างข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมใช้ และ/หรือ เปิดเผย -ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานบนเว็บไซต์ แพลตฟอร์ม การใช้ผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท ข้อมูลคุกกี้ ข้อมูลทางเทคนิคอื่นๆจากการใช้งานแพลตฟอร์มและระบบปฏิบัติการของบริษัท2.1.3ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บจากพนักงาน
ประเภทของข้อมูล - ข้อมูลส่วนตัว
ตัวอย่างข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมใช้ และ/หรือ เปิดเผย -ชื่อ-นามสกุล เพศ เลขบัตรประจำตัวประชาชนวันเดือนปีเกิด หลักฐานการเปลี่ยนชื่อนามสกุล (ถ้ามี)รูปถ่ายส่วนสูง น้ำหนักใบสมัคร EWTH หรือ Resume /CV แบบฟอร์มตรวจสอบเอกสารประวัติพนักงาน (Checklist) สัญญาจ้างเอกสารสวัสดิการต่างๆ (ข้อตกลงการเก็บรักษาข้อมูลที่เป็นความลับ/ข้อตกลงการเข้าใช้ Facebook / ใบสมัครเข้าเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ / หนังสือผู้รับผลประโยชน์ประกันกลุ่ม) Job Description ตามตำแหน่งเอกสาร Competency ต่างๆ Assessmentต่างๆ
ประเภทของข้อมูล - ข้อมูลอ่อนไหว
ตัวอย่างข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมใช้ และ/หรือ เปิดเผย -ประวัติอาชญากรรม ศาสนา เชื้อชาติ ประวัติ การฉีดวัคซีน COVIDประเภทของข้อมูล- ข้อมูลเพื่อการติดต่อ
ตัวอย่างข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมใช้ และ/หรือ เปิดเผย -ที่อยู่ปัจจุบัน ที่อยู่ปัจจุบัน และตามทะเบียนบ้านหมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่อีเมล Line ID Facebook account / Instagram account หรืออื่นๆ(ถ้ามี)
ประเภทของข้อมูล- ข้อมูลการศึกษาและการทำงาน
ตัวอย่างข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมใช้ และ/หรือ เปิดเผย -อาชีพ ชื่อ บริษัท วุฒิการศึกษา และการฝึกอบรมที่เกี่ยวข้อง สำเนาวุฒิการศึกษาสัญญาฝึกอบรมต่างๆผลการทดสอบความสามารถที่เกี่ยวข้อง เช่น สอบภาษาอังกฤษใบอนุญาตขับขี่ ตามลักษณะการทำงาน (เฉพาะตำแหน่งที่จำเป็น) Certificates ต่างๆ
ประเภทของข้อมูล - ข้อมูลทางการเงิน
ตัวอย่างข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมใช้ และ/หรือ เปิดเผย-หมายเลขบัญชี รายได้และข้อมูลเกี่ยวกับภาษี สำเนา Book Bank หมายเลขบัตรเครดิต ข้อมูลการชำระเงิน หรือการชำระหนี้ ข้อมูลการใช้บริการ และผลิตภัณฑ์ของบริษัท ประวัติการซื้อขาย และยอดคงเหลือ ประวัติการชำระเงิน และการทำธุรกรรมประเภทของข้อมูล - ข้อมูลภาพและเสียงในการติดต่อกับบริษัท
ตัวอย่างข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมใช้ และ/หรือ เปิดเผย -บันทึกภาพจากกล้องวงจรปิด(CCTV) บันทึกการสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์ หรือช่องทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นของบริษัท
ประเภทของข้อมูล - ข้อมูลการใช้งาน
ตัวอย่างข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมใช้ และ/หรือ เปิดเผย -ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานบนเว็บไซต์ แพลตฟอร์มการใช้ผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท ข้อมูลคุกกี้ข้อมูลทางเทคนิคอื่นๆ จากการใช้งานแพลตฟอร์มและระบบปฏิบัติการของบริษัท
ประเภทของข้อมูล - ข้อมูลบุคคลที่สาม
ตัวอย่างข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมใช้ และ/หรือ เปิดเผย
1.ข้อมูลติดต่อกรณีฉุกเฉิน: ชื่อ สกุล หมายเลขโทรศัพท์2.ข้อมูลบุคคลอ้างอิง:-ชื่อ-นามสกุลหมายเลขโทรศัพท์ตำแหน่งงานสถานที่ทำงาน
3.ข้อมูลบุคคลค้ำประกัน: ชื่อ-นามสกุล รูปถ่ายหมายเลขโทรศัพท์ตำแหน่งงานหลักฐานรายได้ ประกอบการค้ำประกันสำเนาบัตรประชาชน/สำเนาบัตรข้าราชการ
2.1.4 ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บจากคู่ค้า
ประเภทของข้อมูล - ข้อมูลส่วนตัว
ตัวอย่างข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมใช้ และ/หรือ เปิดเผย
1.ข้อมูลในสำเนาบัตรประชาชนได้แก่
-ชื่อ นามสกุล หมายเลขประจำตัวประชาชนที่อยู่วัน เดือน ปี เกิดรูปภาพส่วนสูง
2.ข้อมูลในสำเนาทะเบียนบ้านได้แก่ชื่อ นามสกุลหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนที่อยู่ตามทะเบียนบ้านสัญชาติ
3.ข้อมูลอื่นๆ ได้แก่ลายเซ็นตำแหน่งงาน
ประเภทของข้อมูล- ข้อมูลอ่อนไหว
ตัวอย่างข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมใช้ และ/หรือ เปิดเผย - ศาสนาประเภทของข้อมูล - ข้อมูลภาพและเสียงในการติดต่อกับบริษัท
ตัวอย่างข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมใช้ และ/หรือ เปิดเผย - บันทึกภาพจากกล้องวงจรปิด(CCTV)
ประเภทของข้อมูล - ข้อมูลการใช้งาน
ตัวอย่างข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมใช้ และ/หรือ เปิดเผย - ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานบนเว็บไซต์ แพลตฟอร์มการใช้ผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทข้อมูลคุกกี้ข้อมูลทางเทคนิคอื่นๆ จากการใช้งานแพลตฟอร์มและระบบปฏิบัติการของบริษัท
2.2ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน(Sensitive Data) หมายถึง ข้อมูลที่เป็นเรื่องส่วนบุคคลโดยแท้ของบุคคล แต่มีความละเอียดอ่อนและอาจสุ่มเสี่ยงในการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมเช่น เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนดบริษัทไม่มีนโยบายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน (Sensitive Data )จากท่าน อย่างไรก็ดีหากมีกรณีที่บริษัทจำเป็นจะต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวบริษัทจะขอความยินยอมจากท่านโดยชัดแจ้งก่อนการดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวหรือเว้นแต่มีเหตุตามกฎหมายให้ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าวได้โดยไม่ต้องขอความยินยอม
ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลหรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นปัจจุบันแก่บริษัทอาจส่งผลกระทบต่อเจ้าของข้อมูลที่อาจไม่สามารถทำธุรกรรมกับบริษัทหรืออาจไม่ได้รับความสะดวกหรือไม่ได้รับการปฏิบัติตามสัญญาที่มีอยู่กับบริษัทและอาจทำให้เจ้าของข้อมูลได้รับความเสียหายหรือเสียโอกาส และอาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติตามกฎหมายใดๆ ที่เจ้าของข้อมูลหรือบริษัทต้องปฏิบัติตาม
2.3ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์คนที่ไร้ความสามารถ หรือคนไร้ความสามารถบริษัทไม่มีเจตนาที่จะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถเว้นแต่บริษัทจะได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครอง ผู้อนุบาล ผู้พิทักษ์หรือการใดๆ ซึ่งผู้เยาว์อาจให้ความยินยอมโดยลำพังได้ตามกฎหมาย(แล้วแต่กรณี)และ/หรือดำเนินการภายใต้ฐานทางกฎหมายอื่น ๆหากบริษัททราบว่าบริษัทได้เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ โดยปราศจากความยินยอมของผู้ใช้อำนาจปกครอง ผู้อนุบาลผู้พิทักษ์ หรือผู้เยาว์ที่อาจให้ความยินยอมโดยลำพังได้ตามกฎหมาย(แล้วแต่กรณี)และไม่สามารถอาศัยฐานทางกฎหมายอื่นได้บริษัทจะดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
2.4ข้อมูลของบุคคลที่สามหากท่านได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามแก่บริษัทผู้ติดต่อฉุกเฉิน บุคคลที่อ้างอิง และผู้อ้างอิง)เช่นชื่อ นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ รายได้ของบุคคลในครอบครัวและข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลเพื่อการติดต่ออื่นเพื่อติดต่อในกรณีฉุกเฉิน กรอกใบสมัครหรือทำธุรกรรมของท่านกับบริษัทท่านรับรองว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ถูกต้องตามกฎหมายกรุณาแจ้งบุคคลเหล่านั้นให้ทราบถึงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ และ/หรือขอความยินยอมจากบุคคลเหล่านั้น
-
-
3. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
-
บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านทางช่องทางต่างๆดังนี้
3.1ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ไว้แก่บริษัทโดยตรง
โดยทั่วไปแล้วบริษัท จะทำการรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรงซึ่งมักจะเกิดขึ้นจากการที่ท่านได้ทำการติดต่อสื่อสารกับบริษัท เพื่อสอบถามข้อมูลให้ความเห็น คำติชม หรือ ส่งข้อร้องเรียน ผ่านทางเว็บไซต์,แอพพลิเคชั่น,โทรศัพท์,อีเมลหรือเพื่อสั่งซื้อสินค้าหรือว่าจ้างหรือใช้บริการจากบริษัทและเข้าทำสัญญากับบริษัท,การเสนอขายสินค้าหรือรับจ้างหรือให้บริการแก่บริษัทและเข้าทำสัญญา,การเข้าร่วมกิจกรรมทางการตลาดหรือกิจกรรมอื่นๆเป็นต้น
3.2ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมจากท่านโดยอัตโนมัติ
บริษัทอาจเก็บรวมรวมข้อมูลทางเทคนิคบางอย่างเกี่ยวกับอุปกรณ์กิจกรรมและรูปแบบการเข้าชม ข้อมูลประวัติการใช้งานเว็บไซต์(Browsing)ของท่านโดยอัตโนมัติ
3.3ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับจากบุคคลภายนอก
บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากบุคคลภายนอกเป็นครั้งคราวอาทิ จากแหล่งข้อมูลสาธารณะ แหล่งข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของท่าน หรือแหล่งข้อมูลทางการค้าไม่ว่าท่านจะเป็นผู้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลด้วยตนเองหรือได้ให้ความยินยอมแก่ผู้ใดในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังกล่าว,ผู้ให้บริการต่างๆ ของบริษัท,หน่วยงานของรัฐ
-
-
4. วัตถุประสงค์ที่บริษัทอาจดำเนินการโดยอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายอื่น ๆในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
-
บริษัทอาจเก็บรวบรวมใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
4.1 วัตถุประสงค์ที่บริษัทจำเป็นต้องได้รับความยินยอม
บริษัทอาศัยความยินยอมของเจ้าของข้อมูลเพื่อ
(ก) การติดต่อสื่อสารทางการตลาดการเสนอข้อเสนอพิเศษ เอกสารส่งเสริมการขายที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการซึ่งบริษัทไม่สามารถอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายอื่น
(ข) การเก็บรวบรวม การใช้ และ/หรือการเปิดเผยข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของเจ้าของข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
(1)ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนซึ่งแสดงอยู่ในเอกสารประจำตัว(เช่น เชื้อชาติ กรุ๊ปเลือด หรือศาสนา)เพื่อการใช้เอกสารประจำตัวในการยืนยันและพิสูจน์ตัวบุคคล
(2)ข้อมูลสุขภาพซึ่งปรากฏอยู่ในเอกสารทางการแพทย์ และเอกสารการ ตรวจสอบร่างกายและเอกสารอื่นของบริษัทเพื่อตรวจสอบสภาวะสุขภาพและการยืนยันตัวตน
(ค)การโอนข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลไปยังประเทศที่อาจจะไม่มีระดับการคุ้มครองข้อมูลที่เพียงพอซึ่งกฎหมายกำหนดให้ต้องได้รับความยินยอม
4.2 วัตถุประสงค์ที่บริษัทอาจดำเนินการโดยอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายอื่นๆ ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทอาจอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายดังต่อไปนี้เพื่อเก็บรวบรวมใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลกล่าวคือ
(1) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาสำหรับการเข้าทำสัญญาหรือการปฏิบัติตามสัญญากับเจ้าของข้อมูล
(2) เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
(3) เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทและของบุคคลภายนอกเพื่อให้สมดุลกับประโยชน์และสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล
(4) เพื่อการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคลและ
(5) ประโยชน์สาธารณะสำหรับการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐโดยบริษัทจะอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายใน (1) ถึง (5) ข้างต้น เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
(1) การติดต่อกับเจ้าของข้อมูลก่อนเข้าทำสัญญากับบริษัทหรือเพื่อดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูล
(2) การนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ การเสนอข้อมูลทางการตลาดกิจกรรมส่งเสริมการขายหรือการตลาด รวมถึงการส่งเอกสารข้อมูลเกี่ยวกับโปรโมชั่นหรือกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ
(3) การบริหารความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของข้อมูลกับบริษัทและการบริหารจัดการบัญชีที่เจ้าของข้อมูลมีอยู่กับบริษัท
(4) การแก้ไขเรื่องร้องเรียนของเจ้าของข้อมูลการจัดการหรือการสอบสวนเรื่องร้องเรียน ข้อเรียกร้อง หรือข้อพิพาทใด ๆที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการ
(5) การป้องกัน ตรวจจับ และสอบสวนการฉ้อโกง การประพฤติมิชอบหรือกิจกรรมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายไม่ว่าจะได้รับการร้องขอจากหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานกำกับดูแลหรือไม่และการวิเคราะห์และบริหารความเสี่ยง
(6) การปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบ กฎเกณฑ์ แนวทาง คำสั่ง คำแนะนำ และการร้องขอจากหน่วยงานของรัฐหน่วยงานภาษีอากร หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย หรือหน่วยงานอื่น ๆหรือหน่วยงานกำกับดูแล(ไม่ว่าในประเทศหรือต่างประเทศ)เช่น กรมสรรพากร สำนักงานประกันสังคมกรมสวัสดิการและ กรมบังคับคดี กระทรวงพาณิชย์ กฎหมายอันเกี่ยวกับการสาธารณสุขเป็นต้น
(7) การติดต่อ การแจ้ง การแจ้งเตือนให้ชำระหนี้การใช้สิทธิเรียกร้องหรือบังคับสิทธิตามกฎหมายหรือตามสัญญา การโอนสิทธิและ/หรือหน้าที่ การติดตามทวงถามหนี้การตรวจสอบทางการเงินโดยผู้สอบบัญชี หรือการรับบริการจากที่ปรึกษากฎหมาย
(8) การปฏิบัติตามภาระหน้าที่ของบริษัทภายใต้สัญญาใด ๆ ที่บริษัทเป็นคู่สัญญาเช่น สัญญากับผู้ให้บริการต่างๆ บุคคลหรือนิติบุคคลใดๆ หรือภายใต้สัญญาที่บริษัททำหน้าที่เป็นตัวแทนและ/หรือนายหน้า เป็นต้น
(9) การบันทึกเสียง หรือบันทึกภาพและ/หรือเสียงบันทึกภาพลงบนCCTVเพื่อการตรวจสอบการที่เจ้าของข้อมูลทำธุรกรรมกับบริษัทการนำไปใช้ในการปรับปรุงหรือพัฒนาบริการของบริษัทการจัดการข้อร้องเรียนของเจ้าของข้อมูล หรือการรักษาความปลอดภัยของบริษัท
4.3 ในกรณีที่บริษัทจะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในลักษณะและ/หรือเพื่อวัตถุประสงค์ที่ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ข้างต้นบริษัทจะจัดให้มีนโยบายหรือประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติมและหรือมีหนังสือไปยังท่านเพื่ออธิบายการประมวลผลข้อมูลในลักษณะดังกล่าวโดยท่านควรอ่านนโยบายหรือประกาศเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องร่วมกับประกาศฯ ฉบับนี้และหรือหนังสือดังกล่าว(แล้วแต่กรณี)
4.4 บริษัทขอแจ้งให้ทราบว่าในกรณีที่บริษัทต้องขอเอกสารระบุตัวตน เช่น บัตรประชาชน หนังสือเดินทางประวัติการทำงาน หรือเอกสารอื่น ๆ ซึ่งอาจมีข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน (Sensitive Data) ได้แก่ ศาสนา สัญชาติ หรือหมู่เลือด เป็นต้น บริษัทไม่มีความประสงค์จะเก็บข้อมูลดังกล่าวจึงขอให้ท่านดำเนินการขีดฆ่า หรือ ปิดทึบ ข้อมูลส่วนนั้น ทั้งนี้หากท่านมิได้ดำเนินการตามที่แจ้ง บริษัทขอสงวนสิทธิในการดำเนินการขีดฆ่า หรือปิดทึบข้อมูลดังกล่าวเพื่อเป็นการรักษาไว้ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่าน
4.5 ท่านตกลงจะไม่ส่งมอบข้อมูลใดๆที่ไม่ถูกต้องและ/หรือที่ทำให้เข้าใจผิดแก่บริษัทและท่านตกลงจะแจ้งให้บริษัททราบถึงความไม่ถูกต้องหรือการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลนั้นบริษัทสงวนสิทธิ์ที่จะขอให้ส่งมอบเอกสารเพิ่มเติมอื่นใดเพื่อการยืนยันข้อมูลที่ท่านได้ให้แก่บริษัทตามที่บริษัทเห็นสมควร
-
-
5. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
-
เพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อาจมีการเปิดเผยหรือนำส่งให้กับหน่วยงานต่าง ๆภายในบริษัทและบุคคลหรือหน่วยงานภายนอก ดังนี้
ประเภทผู้รับข้อมูล -ภายในบริษัท
รายละเอียด
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจมีการเปิดเผยหรือนำส่งให้กับหน่วยงานต่าง ๆภายในบริษัทเฉพาะที่เกี่ยวข้องและมีบทบาทหน้าที่เท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์เท่านั้นโดยบุคคลหรือทีมงานเหล่านี้ของบริษัทจะได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามความจำเป็นและเหมาะสม
- เจ้าหน้าที่ฝ่ายขายหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายอื่น ๆ เฉพาะที่เกี่ยวข้องโดยกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลตามบทบาทหน้าที่ที่รับผิดชอบ
- ผู้บริหารหรือผู้บังคับบัญชาโดยตรงของท่านที่มีความรับผิดชอบในการบริหารหรือตัดสินใจเกี่ยวกับท่าน หรือเมื่อต้องเกี่ยวข้องกับขั้นตอนทางด้านงานบุคคล
- ฝ่ายหรือทีมสนับสนุนต่าง ๆ เช่นฝ่าย Marketing, Corporate, Call center, Club operation, Fitness, Admin and accounting, HR, Procurement, Leasing, Property, ITเป็นต้น
ประเภทผู้รับข้อมูล - หน่วยงานราชการ หน่วยงานกำกับดูแล หรือหน่วยงานอื่นตามที่กฎหมายกำหนด
รายละเอียด
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจมีการเปิดเผยหรือนำส่งให้กับองค์กรภายนอก ดังนี้ เช่น กรมสรรพากรสำนักงานประกันสังคม กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรมบังคับคดี กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงานหรือหน่วยงานอื่นใดที่อาศัยอำนาจตามกฎหมาย
ประเภทผู้รับข้อมูล - องค์กรหรือบุคคลภายนอก
รายละเอียด
บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลของท่าน ให้กับองค์กรหรือบุคคลภายนอกที่มีการติดต่อสอบถามเพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบการทำธุรกรรมต่างๆ ของท่านและเพื่อที่จะได้ให้บริการหรือจัดหาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของท่านหรือบริษัทคู่ค้า
-
-
6. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ
-
6.1 บริษัทอาจส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลอื่นทั้งในประเทศและต่างประเทศในกรณีที่จำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญาหรือเป็นการกระทำตามสัญญาระหว่างบริษัทกับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของท่านหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญาหรือเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่นเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือเป็นการจำเป็นเพื่อดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ
6.2 บริษัทอาจเก็บข้อมูลของท่านบนคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์ (Server) หรือคลาวด์ (Cloud) ที่ให้บริการโดยบุคคลอื่นและอาจใช้โปรแกรมหรือแอปพลิเคชันของบุคคลอื่นในรูปแบบของการให้บริการซอฟท์แวร์สำเร็จรูปและรูปแบบของการให้บริการแพลตฟอร์มสำเร็จรูปในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านทั้งนี้ บริษัทจะไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้และบริษัทจะกำหนดให้บุคคลอื่นเหล่านั้นต้องมีมาตรการคุ้มครองความมั่นคงปลอดภัยด้านข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม
6.3 กรณีที่มีเหตุจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศบริษัทจะปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับความคุ้มครองและท่านสามารถใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามที่กฎหมายกำหนดรวมถึงบริษัทจะกำหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีมาตรการปกป้องข้อมูลของท่านอย่างเหมาะสมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้นและดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ
-
-
7. การใช้งานคุกกี้ และ/หรือ เทคโนโลยีที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน
-
บริษัทอาจเก็บรวบรวมและใช้งานคุกกี้เพื่อจัดเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานเว็บไซต์ เช่น วันเวลา ลิงค์ที่กดเข้าชมหน้าที่เข้าชม เงื่อนไขการตั้งค่าต่าง ๆ โดยจะบันทึกลงไปในอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และ/หรือเครื่องมือสื่อสารที่เข้าใช้งานของท่าน เช่น โน๊ตบุ๊ค แท็บเล็ต หรือ สมาร์ทโฟนผ่านทางเว็บเบราว์เซอร์ ในขณะที่ท่านเข้าสู่เว็บไซต์
คุกกี้จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และ/หรือ เครื่องมือสื่อสารของท่านในกรณีดังต่อไปนี้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกจัดเก็บเพื่อใช้เพิ่มประสบการณ์การใช้งานบริการทางออนไลน์โดยจะจำเอกลักษณ์ของภาษาและปรับแต่งข้อมูลการใช้งานตามความต้องการของท่านเป็นการยืนยันคุณลักษณะเฉพาะตัว ข้อมูลความปลอดภัยของท่าน รวมถึงบริการที่ท่านสนใจนอกจากนี้คุกกี้ยังถูกใช้เพื่อวัดปริมาณการเข้าใช้งานบริการทางออนไลน์
การปรับเปลี่ยนเนื้อหาตามการใช้งานของท่านโดยพิจารณาจากพฤติกรรมการเข้าใช้งานครั้งก่อนๆ และ ณ ปัจจุบัน และอาจมีวัตถุประสงค์เพื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์โดยท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก“นโยบายคุกกี้”ของบริษัท
-
-
8. การเก็บรักษาและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
-
8.1 บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนานตราบเท่าที่จำเป็นโดยคำนึงถึงความจำเป็นและวัตถุประสงค์ที่บริษัทจะต้องเก็บรวบรวม ใช้และประมวลผลซึ่งรวมถึงการปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายที่ใช้บังคับ
8.2 บริษัทจะยังดำเนินการเก็บรวบรวมใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไป แม้ว่าท่านจะยุติความสัมพันธ์กับบริษัทเท่าที่จำเป็นตามข้อกำหนดของกฎหมายเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายหรือทำการเก็บในรูปแบบที่ทำให้ระบุตัวบุคคลไม่ได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เช่น“การทำข้อมูลนิรนาม” (Anonymous Data) หรือ“การทำข้อมูลแฝงที่ถูกทำให้ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้อีกโดยวิธีการทางเทคนิค” (Pseudonymous Data)
8.3 บริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานเท่าที่จำเป็นต้องเก็บเพื่อการดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวแต่ละฉบับโดยบริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามความจำเป็นตามอายุความนับแต่วันที่ท่านยุติความสัมพันธ์ หรือการติดต่อครั้งสุดท้ายกับบริษัท
8.4 บริษัทจะดำเนินการตรวจสอบเพื่อดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลทำให้ไม่สามารถระบุชื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้เป็นการถาวรหรือโดยประการอื่นเพื่อจำกัดข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาหรือที่ไม่เกี่ยวข้อง หรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้นหรือเมื่อบริษัทต้องปฏิบัติตามคำขอของท่านให้บริษัททำการลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
-
-
9. บริษัทคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร
-
บริษัทให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นอันดับแรกเช่น การเข้ารหัส การจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านมั่นใจว่าบุคลากรของบริษัทและบุคคลภายนอกที่ดำเนินการในนามของบริษัทได้ปฏิบัติตามมาตรฐานด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสมซึ่งรวมถึงหน้าที่ในการป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลและบริษัทใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมกับการประมวลผลข้อมูล
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นอย่างดีตามมาตรการเชิงเทคนิค (Technical Measure) และมาตรการเชิงบริหารจัดการ (Organizational Measure) เพื่อรักษาความปลอดภัยในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสมและเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทได้กำหนดนโยบาย ระเบียบและหลักเกณฑ์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลรวมถึงมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้รับข้อมูลไปจากบริษัทใช้หรือเปิดเผยข้อมูลนอกวัตถุประสงค์ หรือโดยไม่มีอำนาจหรือโดยมิชอบและบริษัทได้มีการปรับปรุงนโยบายระเบียบและหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นระยะตามความจำเป็น และเหมาะสม นอกจากนี้ผู้บริหารพนักงาน ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษาและผู้รับข้อมูลจากบริษัทมีหน้าที่ต้องรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรการรักษาความลับที่บริษัทกำหนด
บริษัทได้มีการทบทวนปรับปรุงขั้นตอนและมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทให้เป็นปัจจุบันสม่ำเสมอเพื่อให้ได้ระดับความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสมกับความเสี่ยงและให้การรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคล ความสมบูรณ์ความพร้อมใช้งานและความคล่องตัวในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปอย่างต่อเนื่องรวมทั้งการปกป้อง การสูญหายและการเก็บรวบรวม การเข้าถึง การใช้ การดัดแปลงการแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้บริษัทจะนำมาตรการต่าง ๆ ในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทมาใช้กับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลทุกประเภทไม่ว่าการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจะเป็นทางอิเล็กทรอนิกส์หรือรูปแบบเอกสารก็ตาม
-
-
10.สิทธิของเจ้าของข้อมูล
-
10.1 ท่านมีสิทธิในการดำเนินการดังต่อไปนี้
(1) สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม
หากท่านได้ให้ความยินยอมให้บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน(ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น)ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัทเว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่
ทั้งนี้การถอนความยินยอมของท่านอาจส่งผลกระทบต่อท่านจากการใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการต่าง ๆ เช่นท่านจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ โปรโมชั่นหรือข้อเสนอใหม่ ๆไม่ได้รับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ดียิ่งขึ้นและสอดคล้องกับความต้องการของท่านหรือไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารอันเป็นประโยชน์แก่ท่าน เป็นต้น เพื่อประโยชน์ของท่านจึงควรศึกษาและสอบถามถึงผลกระทบก่อนเพิกถอนความยินยอม
(2) สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้กับท่านรวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในความครอบครองของบริษัททั้งนี้ บริษัทอาจปฏิเสธคำขอของท่านหากการเข้าถึง และขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจะส่งผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น หรือบริษัทต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาลที่ห้ามเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
(3) สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติรวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติและมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรงเว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค
ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านข้างต้นต้องเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทในการเก็บรวบรวมใช้ และ/หรือเปิดเผยหรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยเพื่อให้ท่านสามารถใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัทได้ตามความประสงค์ซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาอยู่กับบริษัทหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัทหรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลอื่นตามที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายกำหนด
(4) สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูล
ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในเวลาใดก็ได้หากการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้นเพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น โดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผลหรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ หากท่านยื่นคัดค้านบริษัทจะยังคงดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปเฉพาะที่บริษัทสามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่านหรือเป็นไปเพื่อการยืนยันสิทธิตามกฎหมาย การปฏิบัติตามกฎหมายหรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมาย ตามแต่ละกรณี
นอกจากนี้ ท่านยังมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดหรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์หรือสถิติได้อีกด้วย
(5) สิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือเห็นว่าบริษัทหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้วเว้นแต่เป็นกรณีที่บริษัทต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าว
(6) สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่บริษัทอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของท่านหรือกรณีอื่นใดที่บริษัทหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่ท่านขอให้บริษัทระงับการใช้แทน
(7) สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
(8) สิทธิร้องเรียน
ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องหากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
หากท่านมีความกังวลหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติของบริษัทเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โปรดติดต่อบริษัทโดยใช้รายละเอียดการติดต่อตามข้อ12ของนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ทั้งนี้ ในกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าบริษัทได้ทำการฝ่าฝืนกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามระเบียบและวิธีการตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลยื่นคำร้องขอใช้สิทธิภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อบริษัทได้รับคำร้องขอดังกล่าวแล้ว จะดำเนินการภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดอนึ่งบริษัทขอสงวนสิทธิที่จะปฏิเสธหรือไม่ดำเนินการตามคำร้องขอดังกล่าวในกรณีที่กฎหมายกำหนด
10.2 บริษัทมีสิทธิทั้งปวงและดุลพินิจแต่เพียงผู้เดียวในการตอบรับเพื่อดำเนินการตามคำร้องขอหรือปฏิเสธคำขอของท่าน
การใช้สิทธิของท่านตามข้อ 10.1 อาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้องและมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่บริษัทอาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะการใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้นหากบริษัทปฏิเสธคำขอข้างต้น บริษัทจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบด้วย
-
-
11.การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
-
บริษัทจะทำการพิจารณาทบทวนนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นประจำเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติและกฎหมาย ข้อบังคับที่เกี่ยวข้องหากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงที่สำคัญต่างๆ ผ่านช่องทางที่เหมาะสมทั้งนี้ บริษัทขอแนะนำให้ท่านตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เป็นระยะ ๆ
-
-
ช่องทางการติดต่อ
-
หากท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับ การเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยการใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ท่านสามารถติดต่อ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล(Data Protection Officer) ได้ที่
อีเมล: DataProtection.TH@evolutionwellness.co.th
โทร: 02-118-6677
ประกาศใช้ ณ วันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2565
-