Share this page:

ทำไมคนเราถึงได้ โมโหหิว

เมื่อ “ความหิว” บวกเข้ากับ “ความโมโห” มันจะกลายเป็นอันตรายที่ร้ายแรงทวีคูณ มาดูกันเถอะว่า ทำไมเราจึงควรหลีกเลี่ยงมัน


“โมโหหิว” คืออะไร

เคยสงสัยกันบ้างไหมว่าทำไมเรามักชอบ “โมโห” เวลาใกล้อาหารเที่ยงอยู่บ่อยๆ ความโมโหแบบไร้เหตุผลที่จู่ๆ ก็เกิดขึ้นมานี้ ที่จริงแล้วเรียกว่า “โมโหหิว” (ก็คือ “ความหิว” บวกกับ “ความโมโห” นั่นเอง) และเราคงจะรู้สึกสบายใจมากขึ้นเมื่อรู้ว่ามันมีต้นสายปลายเหตุ


ทำความเข้าใจความปั่นป่วนของ “ความหิว” กับ “โมโหหิว”

“โมโหหิว” นั้นเป็นเวอร์ชั่นเต็มของ “ความหิวโหย” รู้ไหมว่า คนที่หิวจัดมักจะกินทุกอย่างที่ไม่ได้ตั้งใจจะกินแต่แรก ไม่ว่าจะเป็นช็อกโกแลตแท่ง ไปจนถึงคุกกี้ หรือแม้แต่เค้ก พวกเขามักจะกินอาหารที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ และสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาคือของหวานเหล่านี้สามารถทำลายระบบร่างกาย ด้วยการเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดอย่างรวดเร็ว แล้วมันก็จะนำไปสู่ความหิวอีกครั้งหนึ่ง และทำให้คนเกิดความ “โมโหหิว” ได้อีกครั้ง ในเวลาเพียงไม่นาน


คุณเองก็ “หิว” จน “โมโห” ในเวลาอันรวดเร็วใช่หรือเปล่า ถ้าคำตอบคือ “ใช่” แล้วล่ะก็ คุณควรต้องรู้วิธีการทานอาหารทั้ง 4 ข้อนี้ติดตัวเอาไว้ เพื่อไม่ให้คุณเกิดโมโหหิวจนเสียฟอร์ม


1. อย่ากินคาร์โบไฮเดรตเพียงอย่างเดียวเหมือนที่เคยทำ

การบริโภคคาร์โบไฮเดรตที่มีไขมันเพียงเล็กน้อย หรือไม่มีเลย จะทำให้น้ำตาลในเลือดแปรรวนได้ง่ายเหมือนกับนั่งรถไฟเหาะ มันจะทำให้อารมณ์และนิสัยการกินแย่ลง ดังนั้น จงอย่าลืมกินโปรตีนและไขมันพร้อมกับคาร์โบไฮเดรตทุกมื้อ ลองจับคู่ชีสไขมันต่ำกับคาร์โบไฮเดรตที่ดีต่อสุขภาพดูก็ได้ เช่น ข้าวโพดคั่ว หรืออาจจะเป็นข้าวเกรียบถั่วดำ


2. ยกนิ้วโป้งให้อาหารที่แปรรูปน้อยได้เลย

อาหารที่ไม่บรรจุหีบห่อ แปรรูปไม่มาก และขัดสีน้อย เป็นอาหารที่ดีต่อการคุมระดับความหิว โปรตีนคุณภาพจากเนื้อปลาและไข่ ไขมันเพื่อสุขภาพจากถั่ว ธัญพืช อะโวคาโด และเนย พร้อมกับผักและผลไม้ต่างๆ นั้น สามารถช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ ลองสร้างทางเลือกเพื่อสุขภาพที่ดีจากแอปเปิ้ล ลูกพีช กล้วย องุ่น มะม่วง มะเดื่อ มะนาว ดอกแดนดิไลอัน คะน้า แครอท มะเขือเทศ และอาหารสดอื่นๆ ดูบ้างสิ


3. หรือจะลองวิธี “พีซีเอฟ” ดีล่ะ

– วิธีนี้ทำได้โดยการกินโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมัน ทุกๆ สองหรือสามชั่วโมง เพื่อให้ระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ในการควบคุม เมื่อใช้วิธีนี้มันจะป้องกันระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้ขึ้นและตก อาจลองทานเนื้อสัตว์ประมาณ 4 – 6 ออนซ์ (ขนาดเท่าฝ่ามือของคุณ) พร้อมกับเนย น้ำมัน หรือน้ำสลัดที่กินกับผักที่ไม่มีแป้งสัก 1 – 2 ช้อนโต๊ะก็ได้ เพราะมันจะสามารถช่วยหลอกร่างกายของคุณ หากต้องการเพิ่มรสชาติให้กับอาหาร ก็ลองโรยสมุนไพร เครื่องเทศ น้ำซุป หรือแม้แต่ผงโกโก้เพื่อเพิ่มความสดชื่นดูบ้างก็ได้


4. กินน้ำก่อนเลย

ทุกวันนี้เราอาจคิดว่า ดื่มน้ำมากพอแล้ว แต่เปล่าเลย วิธีนี้เป็นการปรับปรุงตัวที่เราควรจะลองทำดู ลองดื่มน้ำสักสองสามแก้ว ถ้ารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะเข้าสู่ภาวะหิวผิดปกติ น้ำจะทำให้คุณสงบลงด้วยการทำให้ท้องไม่ว่าง อีกทั้งการดื่มน้ำอึกใหญ่จะช่วยให้อารมณ์เย็นลงเร็วขึ้น


สุขภาพของเราอยู่ในมือของเราเอง (รวมถึงปุ่มรับรสของเราด้วย) นอกจากนั้นยังขึ้นอยู่กับการทานอาหารเพื่อเสริมสร้างสุขภาพที่ดีด้วย ลองผสมผสานการปรุงอาหารให้ลงตัวสักมื้อ แค่นั้นเราก็จะห่างจากไกลจากอาการโมโหหิวได้แล้ว