Share this page:

เคล็ดลับ “ความสุข” เมื่อเป็น “โรคมะเร็ง”

วันนี้เราจะพามาดูเคล็ดลับเพื่อสุขภาพทางความคิด หัวใจ และจิตวิญญาณ ถ้าหากว่าคุณกำลังต่อสู้กับโรคร้ายอย่าง “มะเร็ง”


ทุกท่านคงทราบดีว่า โรคมะเร็งนั้นต้องการมากกว่าการรักษาที่ถูกต้องแม่นยำ เพื่อกำจัดให้มันหายไป สิ่งนั้น คือ คุณจะต้องหากิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อทั้งความคิด หัวใจ และจิตวิญญาณของตัวคุณเอง


ใช่แล้ว! มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับ “ทีแอลซี” หรือความอ่อนโยน ความรัก และการดูแลเอาใจใส่นั่นเอง หากว่ากิจกรรมเหล่านั้นทำให้คุณรู้สึกดี ไม่รู้สึกโดดเดี่ยวอีกต่อไปแล้วล่ะก็ แสดงว่า มันเป็นกิจกรรมที่คุณเลือกได้ถูกทางแล้ว #TeamGoingInHard


ลองคิดตามว่า ถ้าตอนนี้คุณมีเวลาเหลือเฟือ ทำไมถึงไม่ยอมใช้มันให้เป็นประโยชน์กับตัวคุณเองล่ะ เรากำลังพูดถึงโปรแกรมของการฟื้นฟูอย่างยอดเยี่ยม แถมยังอาจเป็นการค้นพบตัวเองได้อีกด้วย และนี่คือเคล็ดลับเพื่อสุขภาพอันดับต้นๆ ในการรับมือกับโรคมะเร็ง ลองมาดูกันเลยดีกว่า


1. เปิดโหมดการนอนหลับซะ

แม้ว่าการนอนหลับจะไม่ช่วยให้หายจากโรคมะเร็ง แต่การนอน “ไม่” หลับจะสร้างปัญหาอย่างแน่นอน


การนอนหลับช่วยให้จิตใจและร่างกายของคุณมีเวลาซ่อมแซมและฟื้นฟูตัวเองจากการรักษา แถมยังเป็นมือปราบความเครียดที่มีประสิทธิภาพสูงอีกด้วย การนอนหลับยังช่วยพัฒนาระบบความคิด และควบคุมความดันโลหิตของคุณ


การนอนหลับที่มีคุณภาพนั้น คุณควรพยายามหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายก่อนนอนไปซะ หรือออกกำลังกายสองถึงสามชั่วโมงก่อนเวลาเข้านอน หลีกเลี่ยงการดื่มคาเฟอีน และไม่ดูทีวี สมาร์ทโฟน หรือแท๊บเล็ตก่อนนอน


สุดท้ายแต่ไม่ใช่ท้ายสุด อย่าลืมเข้านอนตามเวลา และนอนในห้องที่เงียบสนิท หากคุณรู้สึกง่วงนอนตลอดทั้งวัน นั่นอาจเป็นเพราะโรคนอนไม่หลับ หรือผลข้างเคียงของการรักษามะเร็ง คุณอาจจะต้องได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์


2. เข้ารับการบำบัด

คุณอาจต้องการนักบำบัดมืออาชีพเพื่อที่จะเอาชนะผลข้างเคียงของการรักษาโรคมะเร็ง นักบำบัดเหล่านี้เป็นมืออาชีพที่เข้าใจจิตใจของคุณ ช่วยให้คุณเอาชนะความกลัว และโฟกัสที่สุขภาพจิตและอารมณ์โดยรวมของคุณเท่านั้น ความลับของการบำบัดก็คือ คุณจะต้องคิดบวกเสมอ โปรดจำเอาไว้ว่า ไม่ช้าก็เร็ว คุณจะได้ออกไปเตะลูกบอลในสวนสาธารณะ และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของความสนุก


3. คิดบวกเท่านั้น

คุณจะต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ทำให้รู้สึกดีเสมอ ไม่ว่าเวลาที่อยู่ในบ้านหรือนอกบ้านก็ตาม และนั่นขึ้นอยู่กับเพื่อนที่รายล้อมตัวคุณด้วย พวกเขาจะช่วยส่งเสริมสุขภาพจิตและอารมณ์ของคุณให้ดีขึ้น และมันเป็นสิ่งสำคัญในการฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ ถึงเวลาที่คุณจะต้องบอกลาความเครียดได้แล้วนะ


4. ทำตัวเป็นผึ้งงานที่ยุ่งอยู่ตลอดเวลา

เราทุกคนคงเคยได้ยินคำว่า “จิตใจที่ว่างเปล่าคือ ห้องทำงานของปีศาจ” กันมาบ้าง และมันก็เป็นเรื่องจริงของทุกๆ คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่กำลังพักฟื้นเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงจากโรคมะเร็ง ทำไมคุณไม่ลองหากิจกรรมที่สนใจทำดูล่ะ กิจกรรมที่คุณอยากจะเรียนรู้ หรือสามารถทำให้คุณสนใจได้ในทันที ลองสอนสิ่งใหม่ๆ ให้กับตัวเอง เช่น การวาดรูป การเต้นรำ การทำขนม หรืออะไรก็ตามที่คุณสนใจ จุดประสงค์ของมันก็คือการทำให้จิตใจของคุณไม่ว่างนั่นเอง


5. ทำตัวให้ฟิตเหมือนไม่มีวันพรุ่งนี้อีกแล้ว

ไม่มีวิธีอื่นในการรักษาความฟิตของร่างกายได้ดีไปกว่าการออกกำลังกายตามปกติ เพราะมันจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความอดทน ลดความเจ็บปวด ทำให้การไหลเวียนโลหิตดีขึ้น ช่วยในเรื่องการนอนหลับ ช่วยควบคุมน้ำหนัก อีกทั้งยังทำให้คุณรู้สึกดีกับตัวเองด้วย


สมาคมโรคมะเร็งของอเมริกาให้คำแนะนำแก่ ผู้ป่วยโรคมะเร็งว่า พวกเขาควรออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ รวมถึงการฝึกความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้ออย่างน้อยสองวันต่อสัปดาห์ และถ้าสิ่งที่กล่าวมานี้เป็นกิจวัตรประจำวันของคุณอยู่แล้ว คุณก็จะมีวันพรุ่งนี้ต่อไปอีกนานแสนนาน


6. คบหาสมดุลของการกินให้เหมือนคบกับเพื่อนสนิท

คุณควรส่งเสริมการออกกำลังกายของตัวเองด้วยการทานอาหารที่สมดุล พนันได้เลยว่าคุณคงได้ยินเรื่องนี้มาหลายล้านครั้งแล้ว แต่ว่ามันก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องนะ


คุณควรทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ธัญพืช โปรตีน ผลไม้ ผัก วิตามิน และแร่ธาตุ และจำไว้ว่าคุณต้องกินเฉพาะโปรตีนที่มีไขมันอิ่มตัว เช่น เนื้อไม่ติดมัน ไข่ปลา พืชตระกูลถั่ว เมล็ดพืช และถั่ว และอย่ากินไขมันไม่อิ่มตัว


นอกจากนั้น ลองเลือกไขมันเพื่อสุขภาพที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 สูงรับประทายเช่น วอลนัทและปลา ขอบอกว่ายังมีสุดยอดอาหารบางอย่าง ที่มีคุณสมบัติในการต่อสู้กับโรคมะเร็ง สามารถฆ่าเซลล์มะเร็ง และป้องกันไม่ให้เนื้องอกเติบโตได้อีกด้วย


หากเราจะพูดง่ายๆ ว่า การรับมือกับโรคมะเร็งเป็นเพียงเรื่องที่ท้าทาย ก็คงเป็นการพูดที่น้อยกว่าความจริงไปมาก แต่หากคุณทำตามวิธีข้างต้นด้วยขั้นตอนที่มีระเบียบวินัย เราขอแสดงความยินดีกับก้าวแรกของคุณในการต่อสู้ที่คุ้มค่า เอาล่ะ! มาเริ่มกันได้เลย